Windows 11 เป็นระบบปฎิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดที่ทาง Microsoft ให้บริการ ซึ่งก่อนทำการติดตั้งก็ต้องตรวจสอบก่อนว่า PC หรือ Laptop ที่ใช้งานนั้นมี Space ที่รองรับ Windows 11 หรือไม่
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำการติดตั้ง Windows 11 !
กรณีใช้งาน Windows 10 และต้องการอัพเกรดเป็น Windows 11 ควรตรวจสอบว่า PC หรือ Laptop ที่ใช้งานนั้น ผ่านเกณฑ์ Space ขั้นต่ำก่อนทำการอัพเกรด และ Windows 10 ที่ใช้งานต้องเป็น Windows ลิขสิทธิ์แท้ และตรงกับตัวที่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 11 ได้ โดยสามารถใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า “PC Health Check” ตรวจสอบความเข้ากันได้ของคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน ว่าจะสามารถใช้งาน Windows 11 ได้หรือไม่
ก่อนทำการติดตั้ง Windows 11 ต้องตรวจสอบก่อนว่า PC หรือ Laptop ที่ใช้งานนั้นมี Space ที่รองรับ Windows 11 หรือไม่ และ Windows 10 ที่ใช้งานต้องเป็น Windows ลิขสิทธิ์แท้ และตรงกับตัวที่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 11 ได้ โดยสามารถใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า “PC Health Check” ตรวจสอบความเข้ากันได้ของคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน
Windows คือ จุดเริ่มต้นแรกในการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ Laptop ซึ่ง Windows เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Microsoft เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาให้เพื่อให้สามารถใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกขึ้น
เลือกใช้ Windows แบบไหนดี ?
การเลือกใช้งาน Windows ควรเลือกให้ตรงตามสิทธิ์ของ Software และลิขสิทธิ์ที่ถูกต้อง โดย Windows มีสิทธิ์ของ Software แต่ละประเภทดังนี้
ดังนั้นหากอยากทราบว่า Windows ที่ใช้อยู่เป็นของแท้หรือไม่ สิ่งง่าย ๆ คือ สามารถยืนยันสิทธิ์ตามข้อมูลด้านบนได้หรือไม่ หากมีหน่วยงานภายนอกมาตรวจสอบ หรือการสั่งซื้อสินค้านั้นได้มีข้อมูลตามข้อมูลด้านบนครบถ้วนหรือไม่
ข้อมูลโดยสรุป
Windows คือระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดย Microsoft ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะต้องมีการติดตั้ง Windows ก่อน จึงจะสามารถใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้ โดยสามารถซื้อ Windows ลิขสิทธิ์แท้ราคาถูกได้จากตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft
Incoming (POP): pop.domainname.com/.co.th
Port :110 Not SSL
Incoming (Imap): imap.domainname.com/.co.th
port : 143 Not SSL
Outgoing : smtp.domainname.com/.co.th
port : 587 Not SSL
Email Server มีหน้าที่ทำงานเป็นตัวคอยรับส่งและเก็บข้อมูล ของอีเมลพนักงานทุกฉบับไว้ในเครื่องซึ่งถือว่า Mail Server มีการทำงานอย่างหนักอยู่ตลอดเวลาหากต้องการย้าย Mail Server ต้องเลือกผู้ให้บริการที่ดีที่สุด
Email Server มีบทบาทอย่างไรต่อองค์กร
Email Server ถือว่าเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างธุรกิจอย่างมากเช่นการสั่งซื้อ การยืนยันการสั่งซื้อ รวมไปถึงการแจ้งชำระค่าบริการต่างๆในนามบริษัทซึ่งต้องระวังเรื่องการ Hack ของผู้ไม่หวังดีในการแอบอ้างว่าเป็นผู้ใช้งานในองค์กรหรือแอบอ้างว่าเป็นผู้ติดต่อการซื้อขายและมีการเปลี่ยนเลขที่บัญชีในการโอนเงิน ถือว่าเป็นภัยต่อองค์กรอย่างมาก Email Server ที่ปลอดภัยต่อองค์กรจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของ User ร่วมด้วยเช่นผู้ใช้งานหมั่น Scan ไวรัสและเปลี่ยน Password อย่างสม่ำเสมอ และตรวจสอบไฟล์แนบที่ไม่ปลอดภัยก่อนทำการเปิดไฟล์แนบ
ขั้นตอนการย้าย Email Server ทำอย่างไร ?
Backup ข้อมูลทุก User ก่อนทำการย้าย Mail Server
ตรวจสอบค่า DNS เดิมว่ามีค่าใดที่ต้องการ Point ใน NS ใหม่หรือไม่ (กรณีที่ต้องการเปลี่ยนค่า NS)
กำหนดรายชื่อ Email ให้ผู้บริการ Email Server ใหม่
กำหนดวันและเวลาในการเปลี่ยน Email Server
เปลี่ยนค่าใน DNS เช่นเปลี่ยน MX,Cname,TXT หรือเปลี่ยน NS ใหม่
การย้าย Email Server กระทบต่อกลุ่มใดมากที่สุด ?
การย้าย Email Server กระทบต่อผู้ใช้งาน หรือ User มากที่สุดเพราะการเปลี่ยนค่า DNS นั้นจะทำให้ระบบ Email ไม่สามารถใช้งานได้ทันที ซึ่งถือว่าการกำหนดวันและเวลาในการเปลี่ยนค่าระบบ Email หรือ DNS นั้นสำคัญอย่างมากเพราะการรอค่า DNS Update ขึ้นอยู่กับ Internet ของผู้ใช้งานโดยปกติทั่วไปจะใช้ระยะเวลาในการ Update DNS ประมาณ 3-5 ชั่วโมง โดยทางผู้ให้บริการจะย้ำลูกค้าเสมอในการย้ายระบบ Email Server นั้นต้องย้ายในช่วงระยะเวลาที่มีผู้ใช้งานน้อยที่สุดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
สำหรับท่านที่กำลังจะทำอีเมลบริษัทแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้งานเป็นระบบไหนดีระหว่าง Google Workspace หรือ Microsoft 365 บทความนี้มีแนะนำ
Google Workspace คืออะไร ?
Google Workspace คือระบบการทำงานของ Google ซึ่งใช้งานผ่านหน้า Gmail โดยมีฟังก์ชั่นการทำงานต่างกันออกไปตาม Package ที่ผู้ใช้งานเลือกซื้อให้ตรงกับการใช้งานในบริษัท เช่น Google Doc, Google Sheet, Google Slides เป็นต้น โดยราคาเริ่มต้นของ Google Workspace คือ 2,650 บาท / User / ปี (อ้างอิงจากเทคโนโลยีแลนด์)
Microsoft 365 คืออะไร ?
Microsoft 365 คือ ระบบอีเมลจากค่าย Microsoft โดยมาพร้อมกับ Software ที่ช่วยทำให้การทำงานในบริษัทนั้นง่ายขึ้น เช่น Microsoft Teams (สำหรับประชุม Online), OneDrive (Share File ในองค์กร), Word, Excel, Power Point เป็นต้น โดยราคาเริ่มต้นของ Microsoft 365 คือ 980 บาท / User / ปี (อ้างอิงจากเทคโนโลยีแลนด์) สำหรับ Plan No Team
เลือกใช้งาน Microsoft 365 หรือ Google Workspace ดี ?
การเลือกใช้งาน Microsoft 365 หรือ Google Workspace ควรเลือกที่ตอบโจทย์ที่บริษัทต้องการมากที่สุด เพราะจะได้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เช่น เรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องฟังชั่นเสริม หรือเรื่องพื้นที่อีเมล
สามารถใช้งาน Google Workspace หรือ Microsoft 365 ราคาถูกได้ไหม ?
จะเห็นได้ว่าราคาของ Google Workspace นั้นค่อนข้างสูง และราคาปัจจุบันของ Microsoft 365 นั้นที่ขายในประเทศไทยเป็นราคาโปรโมชั่นหรือลด 50% หากต้องการใช้งาน Google Workspace ราคาถูก หรือ Microsoft 365 ราคาถูก ทางเราขอแนะนำให้ใช้งานแบบ Hybird โดยท่านสามารถติดต่อสอบถามกับทางเทคโนโลยีแลนด์ได้เลย เพราะการใช้งานแบบ Hybird สามารถทำให้บริษัทของท่าน ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 60-80 %
ข้อมูลโดยสรุป
การเลือกใช้งาน Microsoft 365 หรือ Google Workspace ควรเลือกที่ตอบโจทย์ที่บริษัทต้องการมากที่สุด เพราะจะได้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เช่น เรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องฟังชั่นเสริม หรือเรื่องพื้นที่อีเมล
Workspace 2 ระบบหรือระบบ Email Server ที่ใช้งาน 2 ระบบภายในโดเมนเดียวกันโดยจะมีระบบ Google Workspace และระบบ Cloud Email Server ภายใต้โดเมนเดียวกันผู้ใช้งานสามารถกำหนดให้ account ใดอยู่ในระบบ Workspace หรืออยู่ในระบบ Cloud Email Server ซึ่งทั้ง 2 ระบบนี้จะใช้หน้าจัดการแยกจากกันรวงมถึงการเข้าใช้งานผ่าน Webmail ระบบ Google Workspace จะใช้งานผ่าน Gmail.com ส่วนระบบ Cloud Email Server จะใช้งานผ่าน Webmail ที่ทางบริษัทกำหนด ซึ่งขั้นตอนทำอีเมลบริษัท Workspace 2 ระบบนั้นไม่ได้ยุ่งยาก
ใครเหมาะสมที่จะใช้ระบบ Workspace 2 ระบบ
ระบบ Google Workspace 2 ระบบ เป็นระบบที่เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีผู้ใช้งานค่อยข้างเยอะแต่อยากใช้งานทั้ง 2 ระบบภายในโดเมนเดียวกันเช่นแบ่งให้ผู้บริหารใช้งาน Google Workspace และพนักงงานทั่วไปที่ใช้งานพื้นที่ไม่มากใช้งานระบบ Cloud Email Server การใช้งาน2 ระบบนี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายภายในองค์กรต่อปีได้มากเลยทีเดียว และยิ่ง Google Workspace ประกาศขึ้นราคาปี 2567 ก็จะยิ่งทำให้การใช้งาน 2 ระบบนั้น ประหยัดยิ่งขึ้นไปอีก โดยท่านสามารถสอบถามการทำ 2 ระบบกับทาง technologyland ได้เลย
เป้าหมายสูงสุดของ Workspace 2 ระบบ คืออะไร
เป้าหมายสูงสุดของระบบ Google Workspace 2 ระบบ คือการประหยัดค่าใช้จ่ายในองค์กร รวมไปถึงการได้ใช้ระบบ Email ที่ดีและมีความปลอดภัยด้านการจัดเก็บข้อมูลรวมไปถึงประสิทธิภาพของระบบ email ซึ่งรองรับการใช้งานของ user ทั้งระบบ Google Workspace และระบบ Cloud Email Server ซึ่งทั้ง 2 ระบบมีหน้า admin คอยตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้อย่างทันที
สรุป
ระบบ Google Workspace 2 ระบบ เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อลดค่าใช้จ่ายในองค์ให้มีค่าใช้จ่ายลดลงแต่ยังคงประสิทธิภาพในการใช้งานระบบ Google Workspace ไว้โดยทีคัดเลือก user ที่มีการใช้งานพื้นที่หรือการรับส่งข้อมูลน้อยมาใช้งานระบบ Cloud Email Server ซึ่งทั้ง 2 ระบบสามารถตรวจสอบการใช้งานของ User ได้ และมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบ Email Support ด้านปัญหาการใช้งานหรือการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกสามารถแจ้งทางบริษัทที่เป็น Reseller ได้เลย