Microsoft 365 คืออะไร ?

Microsoft 365 คืออะไร ?

Microsoft 365 คือระบบ Email องค์กรของระบบ Microsoft ซึ่งจะมี Package ที่แตกต่างกันออกไปซึ่งเป็นที่นิยมต่อการใช้งานระบบ Email บริษัทเพราะระบบ Microsoft 365 นั้นมีฟังก์ชั่นการใช้ Microsoft office ให้บริการด้วยซึ่งถือว่าเป็นโปรแกรมที่ต้องใช้งานกันเป็นประจำอยู่แล้วจึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริหารที่มองหาระบบ Email องค์กรเพื่อใช้งานเป็นระบบ Email สำหรับติดต่อสื่อสารในนามบริษัทโดยระบบ Microsoft 365 แต่ละ Packge นั้นจะมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้

ทำไมต้องใช้งานระบบ Microsoft 365 ?

เนื่องจากระบบ Microsoft 365 เป็นระบบที่ผู้คนคุ้นเคยกับหน้าตาของ microsoft office แล้วยังสามารถใช้งานผ่านระบบ online ได้ด้วยซึ่งถือว่าสะดวกต่อการใช้งานและการติดต่อเพื่อรองรับการทำงานแบบระบบองค์กรเป็นอย่างมากและที่มากไปกว่านั้นระบบ Microsoft 365 นั้นยังได้พื้นที่สำหรับ One Drive 1 TB/Account เลยทีเดียวซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่เยอะมากสำหรับเก็บข้อมูลบนระบบ Cloud ส่วนระบบ Email แต่ละ User จะได้พื้นที่ 50 GB/Account ทั้งระบบ Basic และ standard ซึ่งจะหมดปัญหา Email เต็มเร็วต่อผู้ใช้งานที่ต้องมาคอยนั่งลบ Email ออกจากระบบเพราะบางฉบับก็ไม่สามารถลบได้เนื่องจากเป็น Email องค์กรที่ติดต่อสำคัญ

ค่าใช้จ่ายในการใช้งานระบบ Microsoft 365

เนื่องจากระบบ Microsoft 365 จะมีหลาย Package สำหรับระบบ Email องค์กรผู้เขียนขอแนะนำ 2  Package ดังนี้

  • ระบบ Basic ราคา 1359 บาท/U/Y
  • ระบบ Standard ราคา 3970 บาท/U/Y

เป้าหมายสูงสุดของระบบ Microsoft 365 คืออะไร ?

เป้าหมายสูงสุดของระบบ Microsoft 365 เพื่อลดค่าใช้จ่ายสำหรับองค์กรกรณีที่ต้องซื้อ licenes สำหรับ Office หรือการซื้อพื้นที่เพิ่มสำหรับ User ซึ่งระบบ Microsoft 365 ตอบโจทย์เป็นอย่างมากเพราะได้ Office ทั้ง online และแบบติดตั้งลงเครื่องของผู้ใช้งานและมากไปกว่านั้นคือพื้นที่ของ email จะได้พื้นที่มากถึง 50 GB ช่วยป้องกัน Email เต็มได้ดีเหมาะสำหรับองค์กรที่เก็บข้อมูลไว้บนระบบ Cloud

เราจะประหยัดค่าใช้จ่าย Microsoft 365 ได้อย่างไร

ระบบ Microsoft 365 Hybrid คือ ระบบ Email ที่ใช้งาน MS365 ร่วมกับระบบ Email อื่นๆ ซึ่งจะทำให้การใช้งาน Email Hosting บน Office365 ราคาถูกลงกว่า 80% โดยท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก ระบบ Office 365 ราคาถูกด้วยเทคนิค Hybrid

บทความที่เกี่ยวข้อง

port ที่นิยมในการใช้งาน mail server

HTTPS คืออะไรทำไมต้องใช้ ?

ถ้าโดเมนหมดอายุแต่จะย้ายผู้ดูแลโดเมนสามารถย้ายได้ไหม

Google Workspace ราคาเท่าไร

หากใช้งาน Email Server อยู่จะย้ายผู้ให้บริการได้อย่างไร ?

Email Server คืออะไร ?

Email ที่รับเข้าและส่งออกใช้งานในการสื่อสารภายในองค์กรรวมไปถึงการติดต่อสื่อสารภายนอกองค์กรด้วยเช่นกันโดยส่ง Email นั้นจะมีค่า Incoming และ Outgoing ในการตั้งค่า Email Server จะสามารถตั้งค่าได้ดังนี้

  • Incoming (POP): pop.domainname.com/.co.th
    Port :110  Not SSL
  • Incoming (Imap): imap.domainname.com/.co.th
    port : 143  Not SSL
  • Outgoing : smtp.domainname.com/.co.th
    port : 587  Not SSL

Email Server มีหน้าที่ทำงานเป็นตัวคอยรับส่งและเก็บข้อมูล ของอีเมลพนักงานทุกฉบับไว้ในเครื่องซึ่งถือว่า Mail Server มีการทำงานอย่างหนักอยู่ตลอดเวลาหากต้องการย้าย Mail Server ต้องเลือกผู้ให้บริการที่ดีที่สุด

 

Email Server มีบทบาทอย่างไรต่อองค์กร

Email Server ถือว่าเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างธุรกิจอย่างมากเช่นการสั่งซื้อ การยืนยันการสั่งซื้อ รวมไปถึงการแจ้งชำระค่าบริการต่างๆในนามบริษัทซึ่งต้องระวังเรื่องการ Hack ของผู้ไม่หวังดีในการแอบอ้างว่าเป็นผู้ใช้งานในองค์กรหรือแอบอ้างว่าเป็นผู้ติดต่อการซื้อขายและมีการเปลี่ยนเลขที่บัญชีในการโอนเงิน ถือว่าเป็นภัยต่อองค์กรอย่างมาก Email Server ที่ปลอดภัยต่อองค์กรจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของ User ร่วมด้วยเช่นผู้ใช้งานหมั่น Scan ไวรัสและเปลี่ยน Password อย่างสม่ำเสมอ และตรวจสอบไฟล์แนบที่ไม่ปลอดภัยก่อนทำการเปิดไฟล์แนบ

 

ขั้นตอนการย้าย Email Server ทำอย่างไร ?

  • Backup ข้อมูลทุก User ก่อนทำการย้าย Mail Server
  • ตรวจสอบค่า DNS เดิมว่ามีค่าใดที่ต้องการ Point ใน NS ใหม่หรือไม่ (กรณีที่ต้องการเปลี่ยนค่า NS)
  • กำหนดรายชื่อ Email ให้ผู้บริการ Email Server ใหม่
  • กำหนดวันและเวลาในการเปลี่ยน Email Server
  • เปลี่ยนค่าใน DNS เช่นเปลี่ยน MX,Cname,TXT หรือเปลี่ยน NS ใหม่

 

การย้าย Email Server กระทบต่อกลุ่มใดมากที่สุด ?

การย้าย Email Server กระทบต่อผู้ใช้งาน หรือ User มากที่สุดเพราะการเปลี่ยนค่า DNS นั้นจะทำให้ระบบ Email ไม่สามารถใช้งานได้ทันที ซึ่งถือว่าการกำหนดวันและเวลาในการเปลี่ยนค่าระบบ Email หรือ DNS นั้นสำคัญอย่างมากเพราะการรอค่า DNS Update ขึ้นอยู่กับ Internet ของผู้ใช้งานโดยปกติทั่วไปจะใช้ระยะเวลาในการ Update DNS ประมาณ 3-5 ชั่วโมง โดยทางผู้ให้บริการจะย้ำลูกค้าเสมอในการย้ายระบบ Email Server นั้นต้องย้ายในช่วงระยะเวลาที่มีผู้ใช้งานน้อยที่สุดเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน

 

คำถามที่เกี่ยวข้อง

วิธีการย้ายโดเมน .com และ .co.th

วิธีการย้ายโดเมน .com สามารถดำเนินการได้เลยโดยไม่ต้องมีเอกสารใด ๆ แต่ลูกค้าต้องประสานงานกับผู้ให้บริการรายเก่าเพื่อขอข้อมูลในการย้ายโดเมน .com ดังนี้

  • Auz code ของโดเมน
  • เปลี่ยนสถานะโดเมน เป็น active/OK
  • โดเมนต้องไม่หมดอายุ
  • ให้ registrant email กด Approve เมื่อดำเนินการย้ายโดเมนแล้ว

วิธีการย้ายโดเมน .co.th จะต้องใช้เอกสารในการย้าย ผู้ให้บริการดูแลโดเมนรายใหม่ จะส่งเอกสารให้ลูกค้ากรอกและประทับตาบริษัท และส่งให้บริการจะดำเนินการย้ายโดเมนให้ดังนี้

  • ผู้ให้บริการจะส่งเอกสารที่ประทับตาบริษัทให้ทาง THnic ผู้รับจดโดเมน .co.th ทั่วประเทศ
  • ทาง THnic จะดำเนินการโดเมนตามเอกสารแจ้งเข้าระบบผู้ให้บริการใหม่
  • จากนั้นผู้ให้บริการกดรับโดเมนตามเอกสาร ถือว่าเป็นการย้ายโดเมน .co.th เสร็จสมบรูณ์

 

ความกังวลด้านการตั้งค่า DNS ในการย้าย Email Server

เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่กังวลเรื่องการตั้งค่า DNS อย่างมากเพราะหากมีการตั้งค่าผิดพลาดไปจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานทันทีโดยผู้ให้บริการส่วนใหญ่จะแนะนำให้ลูกค้าส่งหน้าจัดการDomain มาให้ผู้บริการเปลี่ยนค่าให้แทนโดยค่าที่เปลี่ยนระบบ Email Server นั้นจะมี 3 ค่า คือ MX,Cname,TXT การเปลี่ยนค่าดังกล่าวนี้ต้องตรวจสอบว่าลูกค้ามีการใช้งาน Website หรือไม่ หากมีการใช้งานให้เปลี่ยนค่าดังกล่าวได้เลย แต่หากไม่มีการใช้งานทางผู้ให้บริการจะแนะนำให้ลูกค้าเปลี่ยนเป็นค่า NS ซึ่งจะทำให้การจัดการด้าน DNS ง่ายต่อผู้ให้บริการและป้องกันกันล่มของระบบ Email ด้วย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่เปลี่ยนค่า MX,Cname,TXT หากมีการเปลี่ยนค่า NS ไปแต่ไม่ได้นำค่าระบบ Email ไป point ใน NS ใหม่จะทำให้ระบบ Email ล่มซึ่งต้องรอ DNS Update 1-3 ชม.ทำให้การติดต่อสื่อสารขาดหายไปในการดำเนินธุรกิจส่งผลกระทบอย่างมาก

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

การเก็บ Log ตาม พรบ คอม สำหรับผู้ให้บริการ Mail Server ต้องเก็บอะไรบ้างอย่างไร ?

SSD Disk ใน Email Server ช่วยทำให้การใช้งานเร็วขึ้นจริงมั้ย ?

Data Center ของ Mail Server นั้นมีผลต่อความเร็วในการใช้งาน Mail Server แค่ไหน

พื้นที่ (Disk Space) ในการใช้งาน Email Server จำเป็นมากแค่ไหน ?

เอกสารที่ต้องใช้ในการจด Domain.com และ .co.th มีอะไรบ้าง

อีเมลบริษัทต่างจากฟรีอีเมล์อย่างไร ?

อีเมลบริษัทคืออะไร ?

อีเมลบริษัทคือ Email ที่จดโดเมนเป็นของบริษัทเช่น Email AAA@company.com โดยหากต้องการใช้งานอีเมลบริษัทนั้นจะต้องซื้อบริการจากบริษัทที่รับทำอีเมลบริษัท ซึ่งจะมีผู้ให้บริการจำนวนมากในประเทศไทยโดยการจดโดเมนเป็น @ บริษัทนั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกจดโดเมนได้หลากหลายเช่น .com .co.th หรือ .net เป็นต้นโดยขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งานโดยส่วนใหญ่ในการติดต่อในนามธุรกิจจะใช้งาน อีเมลบริษัทเป็นการติดต่อ หรือหากเป็นองค์กรขนาดใหญ่การติดต่อภายในองค์กรจะใช้ อีเมลบริษัทในการติดต่อซึ่งจะง่ายในการตรวจสอบเป็นอย่างมากและสามารถควบคุมการทำงานภายในองค์กรได้ง่ายมากขึ้นเพราะ อีเมลบริษัทจะสามารถตรวจสอบการทำงานเช่น การ login log การรับเข้า-ส่งออกได้ จึงทำให้อีเมลบริษัทเป็นที่นิยม

ฟรีอีเมลคืออะไร ?

ฟรีอีเมลคือ Email ที่ผู้ใช้งานสามารถสมัครได้ด้วยตนเองผ่าน website ผู้ให้บริการโดยฟรีอีเมล์ที่นิยมกันส่วนใหญ่คือ Gmail, Hotmail หรือ Yahoo โดย Email เหล่านี้จะเป็น Email ส่วนตัวของผู้ใช้งานหรือที่ผู้ให้บริการระบบ Email จะนิยมเรียกว่าฟรีอีเมลเพราะการสมัคร Email ดังกล่าวจะสมัครได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายซึ่งไม่ได้กำหนดว่า 1 คนจะมีฟรีอีเมลกี่ Account ซึ่งถือว่าเป็นช่องโหว่ให้สำหรับ Hacker ที่สมัครฟรีอีเมลและปลอมแปลงส่ง Email แอบอ้างซึ่งระบาดต่อผู้ใช้งานระบบ Email เป็นอย่างมาก

 

เทคโนโลยีแลนด์

อีเมลบริษัทต่างจากฟรีอีเมลอย่างไร ?

อีเมล์บริษัทจะเป็นการติดต่อสื่อสารกันในนามบริษัทจะถือว่าดูเป็นทางการและมืออาชีพมากกว่ารวมไปถึงการตรวจสอบภายในองค์กรจะง่ายต่อการตรวจสอบด้วยซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานนั้นนิยมใช้งานอีเมลบริษัทมากกว่าฟรี Email โดยการใช้อีเมลบริษัทในการติดต่อสื่อสารนั้นยังป้องกันการปลอมแปลงจากบุคคลภายนอกที่ไม่หวังดีแอบอ้างว่าเป็นผู้ใช้งานติดต่อเข้ามาเพื่อสร้างความสับสนให้กับผู้รับทำให้เป็นช่องโหว่ในการติดต่อสื่อสารกันได้

อีเมลบริษัททำงานอย่างไร ?

 

จากภาพการทำงาน Email ขาเข้าหากผู้ส่งทำการส่ง Email เข้ามาจะผ่านตัวกรองขาเข้าเพื่อตรวจสอบเนื้อหาหรือไฟล์แนบว่าเข้าข่ายเป็น Spam หรือมีมัลแวร์แอบแฝงมาหรือไม่หากไม่มี Email ฉบับนั้นจะทำการส่งต่อไปที่ Email Server เพื่อตรวจสอบว่าชื่อ Email ผู้รับอยู่ที่ server ใดและทำการส่งต่อ Email ฉบับดังกล่าวไปยัง Email ผู้รับใน Inbox

จากภาพการทำงานขาออกผู้ส่งจะทำการส่ง Email ออกจากเครื่องจากนั้น Email จะถูกส่งต่อมาที่ Email Server และส่งต่อมายัง Spamfilter เพื่อกรองจดหมายว่ามีไฟล์แนบและเนื้อหาที่เป็น Spam หรือไม่หลังจากนั้นตัวกรองจะใช้ IP ส่ง Email ออกไปหาผู้รับในขั้นตอนต่อไป

ผู้ให้บริการอีเมลบริษัทมีอะไรบ้าง ?

ในการเลือกใช้บริการอีเมล (Email) ของบริษัทนั้น จำเป็นต้องเลือกใช้บริการจากบริษัทที่น่าเชื่อถือ มีความมั่นคง และสามารถให้คำปรึกษากับคุณในเรื่องต่างๆได้เป็นอย่างดี ซึ่งบริษัทที่จะขอแนะนำมีดังต่อไปนี้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ส่ง Email ผิดเรียกคืนได้มั้ยหรือต้องทำใจ ?

ต้องการย้าย Reseller Google Workspace ทำอย่างไร

Google Workspace ราคาเท่าไร

วิธีการดู Mx ของระบบ Email Server ทำได้อย่างไร

วิธีการ ping ดู mail server ทำได้อย่างไร

Google Workspace 2 ระบบเหมาะกับใคร

Workspace 2 ระบบหรือระบบ Email Server ที่ใช้งาน 2 ระบบภายในโดเมนเดียวกันโดยจะมีระบบ Google Workspace และระบบ Cloud Email Server ภายใต้โดเมนเดียวกันผู้ใช้งานสามารถกำหนดให้ account ใดอยู่ในระบบ Workspace หรืออยู่ในระบบ Cloud Email Server ซึ่งทั้ง 2 ระบบนี้จะใช้หน้าจัดการแยกจากกันรวงมถึงการเข้าใช้งานผ่าน Webmail ระบบ Google Workspace จะใช้งานผ่าน Gmail.com ส่วนระบบ Cloud Email Server จะใช้งานผ่าน Webmail ที่ทางบริษัทกำหนด

ใครเหมาะสมที่จะใช้ระบบ Workspace 2 ระบบ

ระบบ Google Workspace 2  ระบบ เป็นระบบที่เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ ที่มีผู้ใช้งานค่อยข้างเยอะแต่อยากใช้งานทั้ง 2 ระบบภายในโดเมนเดียวกันเช่นแบ่งให้ผู้บริหารใช้งาน Google Workspace และพนักงงานทั่วไปที่ใช้งานพื้นที่ไม่มากใช้งานระบบ Cloud Email Server การใช้งาน2 ระบบนี้ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายภายในองค์กรต่อปีได้มากเลยทีเดียว และยิ่ง Google Workspace ประกาศขึ้นราคาปี 2567 ก็จะยิ่งทำให้การใช้งาน 2 ระบบนั้น ประหยัดยิ่งขึ้นไปอีก

เป้าหมายสูงสุดของ Workspace 2 ระบบ คืออะไร

เป้าหมายสูงสุดของระบบ Google Workspace 2  ระบบ คือการประหยัดค่าใช้จ่ายในองค์กร รวมไปถึงการได้ใช้ระบบ Email ที่ดีและมีความปลอดภัยด้านการจัดเก็บข้อมูลรวมไปถึงประสิทธิภาพของระบบ email ซึ่งรองรับการใช้งานของ user ทั้งระบบ Google Workspace และระบบ Cloud Email Server ซึ่งทั้ง 2 ระบบมีหน้า admin คอยตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้อย่างทันที

สรุป

ระบบ Google Workspace 2  ระบบ เป็นระบบที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อลดค่าใช้จ่ายในองค์ให้มีค่าใช้จ่ายลดลงแต่ยังคงประสิทธิภาพในการใช้งานระบบ Google Workspace ไว้โดยทีคัดเลือก user ที่มีการใช้งานพื้นที่หรือการรับส่งข้อมูลน้อยมาใช้งานระบบ Cloud Email Server ซึ่งทั้ง 2 ระบบสามารถตรวจสอบการใช้งานของ User ได้ และมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบ Email Support ด้านปัญหาการใช้งานหรือการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกสามารถแจ้งทางบริษัทที่เป็น Reseller  ได้เลย

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

Google Workspace 2 ระบบคืออะไร

ทำไมจึงต้องใช้งาน Google Workspace 2 ระบบ

พื้นที่ (Disk Space) ในการใช้งาน Email Server จำเป็นมากแค่ไหน ?

Google Workspace 2 ระบบ เหมาะกับผู้ใช้งานแบบใดมากที่สุด

Google Workspace ราคาเท่าไร

Google Workspace คืออะไร ?

Google Workspace เป็นระบบ Email องค์กรของระบบ Google โดยใช้งานผ่าน gmail.com ซึ่งผู้ใช้งานนั้นจะใช้งานในฟีเจอร์ต่างๆเช่น Admin Consoln,Drive,Gmail,Sheet,Doce และ อื่นๆโดยที่ Workspace นั้นจะได้พื้นที่มากกว่าระบบ Gmail ปกติทั่วไปซึ่งจะได้พื้นที่ 30 GB/account ฟังก์ชั่นในตัวเริ่มต้นสำหรับ Google Workspace

Google Workspace ราคาเท่าไร ?

เนื่องจากระบบ Google Workspace สำหรับ อีเมลองค์กร นั้นมีให้บริการอยู่ 2 แบบดังนี้

  • Business Starter ราคา 1245/U/Y (สำหรับลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยใช้งานมาก่อนและเป็นราคาสำหรับปีแรกเท่านั้น) และราคา 2450 (สำหรับย้าย reseller)
  • Business Standard ราคา 4800/U/Y

แต่ Google Workspace ประกาศขึ้นราคาปี 2567  ซึ่งต้องติดตามกันอีกทีว่าราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ?

ผู้ใช้งานแบบไหนถึงเหมาะกับการใช้งาน Google Workspace

เนื่องจาก Google Workspace แตกต่างจากระบบ Email ทั่วไปเพราะมีพื้นที่มี่มากกว่า สำหรับPackage Starter เป็นตัวเริ่มต้น ได้พื้นที่ 30 GB/Acc และยังมีฟีเจอร์ต่างๆเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานรวมไปถึงหน้าจัดการ User ที่ผู้ดูแลระบบสามารถเข้าไป Manage User ได้เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการใช้งานพื้นที่ Email เยอะกว่าปกติและความปลอดภัยขั้นสูงสุดของระบบ Google Workspace

เป้าหมายสูงสุดของระบบ Google Workspace คืออะไร

เป้าหมายสูงสุดของระบบ Googlwe Workspace คือผู้ใช้งานที่ใช้งานระบบ @Gmail.com ปกติทั่วได้ใช้ระบบ Email องค์กร @Company ที่ดีและมีความปลอดภัยด้านการจัดเก็บข้อมูลรวมไปถึงประสิทธิภาพของระบบ Email ซึ่งรองรับการใช้งานของ User ของระบบ Google Workspace รวมไปถึงฟังก์ชั่นอื่นๆของระบบ Google Workspace ที่จัดทำขึ้นมาเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายในการจัดทำเองการและเก็บข้อมูลบนระบบ Cloud Email Server ที่ได้รับความปลอดภัยระดับโลก

บทความที่เกี่ยวข้อง

Google Workspace 2 ระบบเหมาะกับใคร

ปัญหา Bandwidth ที่ส่งผลต่อการใช้งานของ Mail Server

ตั้งและเปลี่ยนเสียงแจ้งเตือนเมื่อได้รับ Email บน iOS และ iPhone อย่างไร ?

เมื่อติด IP ของ DNS ติด Blacklist จะมีผลต่อการส่งอีเมล์หรือไม่ ?

จะเกิดผลเสียอย่างไรหาก Mail Server ไม่มีการเก็บ Log

ใช้ Google Workspace อยู่แล้วจะเปลี่ยนมาใช้ Google Workspace 2 ระบบได้ไหม ?

Google Workspace เป็นระบบ Email@บริษัท ของ Google Cloud กรณีที่ผู้ใช้งานต้องการย้ายมาใช้ Google workspace 2 ระบบ สามารถทำได้โดยการย้ายมาเป็น Goolge Workspace 2 ระบบนั้นจะช่วยลดเรื่องค่าใช้จ่ายภายในองค์กรอย่างมาก เนื่องจากราคาของระบบ Google Workspace ค่อนข้างสูงและ Google Workspace ประกาศขึ้นราคาปี 2567 สำหรับ User ที่ใช้งานรับส่ง Email อย่างเดียวไม่ได้ใช้พื้นที่เยอะหรือไม่ได้ใช้งานฟังก์ชั่นอื่นๆ

ทำไมต้องเลือกใช้งาน Google Workspace 2 ระบบ ?

ระบบ Google Workspace 2 ระบบตอบโจทย์ทั้ง User ที่ใช้งานพื้นที่เยอะและ User ที่ไม่ได้ใช้งานพื้นที่เยอะเนื่องจากบางคนมี Email@company ไว้เพื่อรับส่งเอกสารหรือโต้ตอบกันทาง Email เท่านั้นระบบ Google Workspace 2  ระบบมีเพื่อรองรับ User ที่ใช้งานฟังก์ชั่นของระบบ Google Workspace เช่น Meet,Drive ได้ขนาดมากถึง 30 GB/Account และยังช่วยประหยัดค่าใช้งานของระบบ Email ได้มากกว่าใช้งานระบบ Google Workspace อย่างเดียว

Google Workspace 2 ระบบ ถูกกว่าอย่างไร ?

เนื่องจากระบบ Google Workspace ตัวเริ่มต้นราคาอยู่ที่ User 2100/U/Y ซึ่งหากดผู้ใช้งานมีจำนวนมากถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงเลยทีเดียวแต่ระบบ Google Workspace 2 ระบบคือใช้งานระบบ Gocloud และระบบ Google Workspace รวมกันภายในโดเมนเดียวกัน ซึ่งจะประหยัดค่าใช่จ่ายได้มากเลยทีเดียว โดยทางเราจะคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าวๆดังนี้

ระบบ Gocloud 10 User ราคา 3900/Y
ระบบ Google Workspace 3 User ราคา 6300/Y
รวมค่าใช้จ่ายต่อปี 10200/Y

** ซึ่งเทียบกับระบบ Google Workspace 13 U ราคา 27300/Y (ระบบ Google Workspace 2 ระบบ ราคาถูกกว่า 17100/Y เลยทีเดียว) **

เปลี่ยนมาใช้ Google Workspace 2 ระบบทำอย่างไร ?

สำหรับผู้ใช้งานที่ใช้งาน Google Workspace อยู่แล้วต้องเลือก Account ที่ต้องการย้ายมาใช้ Gocloud ออกมาและ Add Account Gocloud ในระบบใหม่และลบ User ดังกล่าวออกจากระบบ Google Workspace หลังจากนั้นถึงจะสามารถ Tranfer Reseller Google Workdpace แล้ว confic ตัว Incoming และ Outgoing ให้เป็นระบบ Google Workspace 2 ระบบโดยมีการทำงานคร่าวๆดังนี้

การทำงานขาเข้า (Incoming)

Email ขาเข้าทั้งหมดจะถูกวิ่งเข้าที่ระบบ Google Workspace และเมื่อไม่พบ User นั้นใน Google Workspace จะถูกส่งต่อมายังระบบ Cloud Email ซึ่งจะมี Firewall ป้องกันอีกชั้นหนึ่งและ Algorithm ที่ทำให้การรับ Email ภายใน Domain แบบ Realtime

การทำงานขาออก (Outgoing)

Email ทั้งหมดจะถูกส่งมาที่ Cloud Email และหากพบว่า User ปลายทางอยู่ในระบบ Google Workspace ระบบจะส่ง Email ฉบับนั้นโดยใช้เทคนิค One IP Direction ทำให้กระบวนการนั้นรวดเร็วแบบ Realtime ส่วน Email ที่ส่งออกไปภายนอก Domain จะเป็น Multi IP Delivery

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทำไมจึงต้องใช้งาน Google Workspace 2 ระบบ

ส่ง Email ผิดเรียกคืนได้มั้ยหรือต้องทำใจ ?

ย้าย Email ที่เข้า Junk เข้า Inbox ถาวรทำได้อย่างไร

ปัญหา Bandwidth ที่ส่งผลต่อการใช้งานของ Mail Server

สามารถใช้งานระบบอีเมล 2 ระบบในโดเมนเดียวได้หรือไม่ ?

สำหรับระบบ Mailserver นั้นมีหลากหลายผู้ให้บริการระบบ Email hosting หลายระบบอีเมลให้ท่านได้เลือกใช้งาน ซึ่งโดยปกติแล้วนั้น 1 ชื่อโดเมน จะสามารถเลือกใช้งานได้เพียง 1 ระบบอีเมลเท่านั้น โดยปกติแล้วจะไม่สามารถใช้งานร่วมกันได้ 2 ระบบภายใน 1 โดเมนได้ แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาระบบ Hybrid Email ซึ่งสามารถทำให้ใช้งานระบบอีเมล 2 ระบบในโดเมนเดียวกันได้แล้ว

Hybrid Email คืออะไร ?

Hybrid Email คือ การทำงานของระบบอีเมล 2 ระบบภายในโดเมนเดียวกันได้ ยกตัวอย่างเช่น การใช้งานระบบอีเมลของทาง Microsoft 365 ร่วมกันกับ Email Go Cloud  หรือ   Google Workspace Business ร่วมกันกับ Email Go Cloud เพื่อใช้งานการแบ่งผู้ใช้งานที่มีความต้องการใช้งานต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานอีเมลในบางแผนกภายใน มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ ฟังก์ชั่นเสริมต่าง ๆ นอกเหนือจากการรับ-ส่งอีเมล และระบบป้องกัน Spam panel เช่น ฟังก์ชั่น ไดร์ฟจัดเก็บข้อมูลระบบ Cloud (Google Drive)  หรือ การจัดประชุมออนไลน์ (Google Meet) หรืออื่น ๆ สามารถแบ่งจำนวนและเลือกซื้อบริการของ ทาง Google Workspace Business แค่เพียงบาง User เท่านั้น และ User ที่เหลืออยู่ที่ไม่ได้มีความต้องการใช้งานฟังก์ชั่นเหล่านี้สามารใช้งาน ระบบ Email Go Cloud ได้

ข้อดีของ Hybrid Email

นอกเหนือจากการเสริมฟังก์ชั่นการทำงานตามข้อมูลด้านบนแล้ว Hybrid Email ยังไม่ข้อดีอีกหลายข้อดังนี้

  • ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของ Email hosting ลงได้จำนวนมาก
  • การใช้งาน 2 ระบบได้ในโดเมนเดียวกัน ทำให้ไม้ต้องจดโดเมนใหม่เพื่อใช้งานอีก 1 ระบบอีเมล
  • การใช้งานชื่อโดเมนเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องจดโดเมนใหม่ที่มีความคล้ายกับชื่อเดิม เพื่อให้ผู้ติดต่อเกิดการสับสน และเกิดความไม่ไว้วางใจ
  • การได้ใช้งานฟังก์ชั่นของทั้ง 2 ระบบอีเมลได้อย่างมีประสิทธิภาพเต็ม 100% ทั้ง 2 ระบบ
  • ระบบ Email Go Cloud สามารถเพิ่มลดพื้นที่ ของ User ได้อย่างอิสระ ไม่มีข้อจำกัดที่จะต้อง Update Plan ทั้งหมดทุก  User ในโดเมน
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายในการทำ   Hybrid Email เพิ่มเติม ราคาของทั้ง 2 ระบบ อีเมลเท่ากับการซื้อ 1 ระบบอีเมลทั้งไป

ข้อมูลโดยสรุป

ในปัจจุบันเราสามารถเลือกใช้งานระบบอีเมล 2 ระบบในโดเมนเดียวได้แล้ว ซึ่งจะเป็นการใช้งานทั้ง 2 ระบบอีเมลได้อย่างไม่มีข้อจำกัดในการทำการสามารใช้งานทั้ง 2 ระบบอีเมลได้อย่างเต็มที่ 100% จะช่วยในการเพิ่มความหลายหลายในการทำงานของผู้ใช้งานอีเมล ที่ต้องการใช้งานฟังก์ชั่นการทำการงานของระบบอีเมลอื่นที่ระบบอีเมลที่ตนใช้งานนั้นไม่มีโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปช้งานระบบอื่นอีก 1 ระบบทั้งหมดทุก  User ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการย้ายระบบอีเมลได้มากกว่า 80 % และยิ่ง Google Workspace ประกาศขึ้นราคาปี 2567 ด้วยนั้น ก็จะยิ่งทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องย้ายทุก User ไปใช้งานอีก 1 ระบบแต่สามารถแบ่งไปใช้งานแค่บาง User ที่มีความต้องการในการใช้งานเท่านั้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

Malware ส่งผลเสียอย่างไรต่ออีเมล ?

Malware คืออะไร ?

Malware เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือชุดคำสั่งที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อขโมยข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ โปรแกรมชนิดนี้อาจถูกสร้างขึ้นจากผู้ไม่หวังดีด้วยวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เช่น การขโมยข้อมูลส่วนตัว, ทำลายระบบคอมพิวเตอร์, หรือนำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการโจมตีคอมพิวเตอร์อื่น ๆ รวมถึงอีกหลายวัตถุประสงค์ที่ไม่ดีต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์และข้อมูลส่วนตัวของท่าน

ผลกระทบหากมี Malware ในอุปกรณ์ที่ใช้งานอีเมล

การมี Malware ในอุปกรณ์ที่ใช้งานอีเมลสามารถทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อผู้ใช้อย่างมากดังนี้

  • การขโมยข้อมูล Malware สามารถขโมยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ เช่น ชื่ออีเมล , รหัสผ่าน ,อีเมลผู้ติดตต่อ และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ที่ถูกส่งเข้ามายังอีเมล ซึ่งอาจนำไปใช้ในการทำอาชญากรรมทางการเงินหรือการโจมตีที่จะส่งผลต่อชื่อเสียงของผู้ใช้งานอีเมล
  • การเผยแพร่และแพร่กระจาย Malware โดยการใช้อีเมลของท่านส่งออก Malwareไปยังผู้ใช้อื่นผ่านทางอีเมล ทำให้สร้างความเสียหายกับระบบของผู้อื่น หรือ ทำให้ผู้ได้รับอีเมลทำการ Blacklist อีเมลจากท่านได้

เราจะตรวจสอบหรือ กำจัด Malware ออกไปได้อย่างไร ?

ในการตรวจสอบ Malware นั้น หากท่านใช้งานอีเมลบริษัทที่มีระบบตรวจสอบ Malware  อยู่แล้วนั้น ตัวระบบจะแจ้งเตือนหรือทำการ block อัตโนมัติ ในกรณีที่พบความผิดปกติในการ  Login หรือ การส่งออกอีเมลที่ผิดปกติไว้ก่อนเพื่อให้ท่านตรวจสอบและทำการ กำจัด Malware  นี้ออกก่อนและจึงค่อย Unblock  ซึ่งวิธรการ ตรวจสอบหรือ กำจัด Malware เบื้องต้นที่สามารถทำได้ด้วนตนเองมีดังนี้

  • ติดตั้งซอฟต์แวร์ตรวจสอบ Malware เช่น โปรแกรม malwarebytes.com และสแกนตรวจสอบเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
  • อย่าเปิดไฟล์แนบหรือลิงค์ จากผู้ส่งอีเมลที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะอาจเป็นการติดตั้ง Malware ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านในเบื้องหลัง
  • สำรองข้อมูล(Black up) เพื่อป้องกันข้อมูลสูญเสียในกรณีที่เครื่องผู้ใช้งานติด Malware
  • ใช้งานระบบอีเมลที่มีตัวตรวจสอบการเข้าใช้งาน และการส่งออกที่ผิดปกติ เพื่อเป็นการป้องกันการถูกผู้ไม่หวังดี ขโมยข้อมูล

ข้อมูลโดยสรุป

การรักษาความปลอดภัยในอีเมลเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกัน Malware และความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นในระบบคอมพิวเตอร์ของท่านและผู้ติดต่อของท่าน เลือกใช้งานระบบอีเมลที่มีตัวตรวจสอบการเข้าใช้งาน และการส่งออกที่ผิดปกติ ระมัดระวัง ไฟล์แนบหรือลิงค์ จากผู้ส่งอีเมลที่ไม่เคยติดต่อกันมาก่อนที่ดูไม่น่าเชื่อถือ และติดตั้งโปรแกรมสแกน Malware ที่มีประสิทธิภาพและหมั่นสแกนตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระบบ Microsoft 365 เหมาะกับใครมากที่สุด ?

ระบบ Microsoft 365 เหมาะสมกับใครมากที่สุด

ระบบ Microsoft เหมาะสำหรับผู้ใช้ Email องค์กรเริ่มต้นตั้งแต่ 1 Email ขึ้นไปหรือการติดต่อสื่อสารภายนอกองค์กรในนามบริษัทก็นิยมใช้งานอีเมลบริษัทเพื่อบ่งบอกถึงความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือขององค์กรรวมทั้งระบบ Email Microsoft 365 ยังเหมาะสำหรับองค์กรที่ใช้งาน Email หรือใช้งานคอมพิมเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windows หรือ IOS ก็ได้เพราะจะได้ฟังก์ชั่นการทำงานของ Office 365 ทั้งแบบ Online และแบบติดตั้งที่เครื่องเมื่อสั่งซื้อ Packagr Standard ซึ่งสร้างความสะดวกสบายต่อการใช้งานภายในองค์กรโดยไม่ต้องลง Office เพิ่มเติมอีก

ระบบ Microsoft 365 มี Package  อะไรบ้าง ?

Package ของระบบ Microsoft มีจำนวนมากแต่สำหรับระบบ Email ในนามองค์กรนั้นแนะนำเป็น 2 Package ดังนี้

1.Package Microsoft 365 Business Basic

2.Package Microsoft 365 Business Standard

ข้อมูลเพิ่มเติม : https://technologyland.co.th/email/microsoft-office-365

ระบบ Microsoft 365 ใช้งานใน Outlook ได้หรือไม่ ?

เนื่องจากโปรแกรม Outlook เป็นโปรแกรมที่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่นิยมใช้งาน Email องค์การผ่าน Client ดังกล่าวซึ่งระบบ Microsoft 365 สามารถใช้งานบนโปรแกรม Outlook ได้เนื่องจากระบบ Microsoft 365 นั้นมีฟังก์ชั่นตัวโปรแกรม Outlook มาให้ด้วยตาม Package ที่ผู้ใช้งานซื้อไว้เช่น Package Microsoft 365 Business Basic จะสามารถใช้งานโปรแกรม Outlook ผ่านระบบ Online เท่านั้นแต่ถ้าเป็น Package Microsoft 365 Business Standard จะสามารถใช้งาน Outlook ผ่านระบบ Online และแบบติดตั้ง Licens ลงที่เครื่องของผู้ใช้งานด้วย

ซื้อ Microsoft 365 ในประเทศไทยมีวิธีเลือกอย่างไร ?

1.เลือก Package ที่เหมาะสมกับการใช้งานระบบให้มากที่สุด

2.เลือกบริษัทจำหน่าย Product ราคาถูกและดี

3.เลือกบริษัทที่มีเจ้าหน้าที่  Support แก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว

4.เลือกบริษัทที่มีเจ้าหน้าคอยแก้ไขปัญหาให้หากติดปัญหาการใช้งาน

5.เลือกบริษัทที่มีฐานลูกค้าเพื่อบ่งบอกคุณภาพของบริษัทที่เราเลือกซื้อ

บทความที่เกี่ยวข้อง

Microsoft 365 คืออะไร

Google Workspace ราคาเท่าไร

Google Workspace 2 ระบบเหมาะกับใคร

พื้นที่ (Disk Space) ในการใช้งาน Email Server จำเป็นมากแค่ไหน ?

หากใช้งาน Email Server อยู่จะย้ายผู้ให้บริการได้อย่างไร ?

ระบบ 365 มี Package อะไรบ้าง ?

ระบบ 365 คืออะไร ?

365 คือระบบ Email องค์กรของระบบ Microsoft ซึ่งจะมี Package ที่แตกต่างกันออกไปซึ่งเป็นที่นิยมต่อการใช้งานอีเมลบริษัทเพราะระบบ Microsoft 365 นั้นมีฟังก์ชั่นการใช้ Microsoft office ให้บริการด้วยซึ่งถือว่าเป็นโปรแกรมที่ต้องใช้งานกันเป็นประจำอยู่แล้วจึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริหารที่มองหาระบบ Email องค์กรเพื่อใช้งานเป็นระบบ Email สำหรับติดต่อสื่อสารในนามบริษัท

ระบบ 365 มี Package อะไรบ้าง ?

เนื่องจาก Package ขอระบบ 365 นั้นมีจำหน่ายจำนวนมากแต่สำหรับระบบ Email องค์กรนั้นจะมีให้บริการดังนี้

  • Microsoft 365 Basic
  • Microsoft 365 Standard

แต่ละ Package เหมาะกับองค์กรแบบใด ?

เนื่องจาก Package ขององค์กรจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้ใช้งานและพื้นที่สำหรับผู้ใช้งานสำหรับองค์กรที่มีการใช้งานจำนวนน้อยและสามารถใช้งานโปรแกรมแบบ Online ได้จะเหมาะสำหรับ Microsoft Offive 365 แบบ Basic ซึ่งจะได้พื้นที่ 1 TB/Account และสามารถใช้งาน Office 365 แบบ Online ได้แต่ถ้าองค์กรที่มีขนาดใหญ่หรือต้องการใช้งาน Office ทั้ง online และ Vertion Desktop  ก็สามารถเลือกซื้อ Microsoft 365 แบบ Standard ซึ่งจะได้พื้นที่ 1 TB/Account และใช้งาน Office Online และ Desktop ได้ด้วย

ทำไมต้องใช้งานระบบ 365 ?

ระบบ Microsoft เหมาะสำหรับผู้ใช้ Email องค์กรเริ่มต้นตั้งแต่ 1 Email ขึ้นไปหรือการติดต่อสื่อสารภายนอกองค์กรในนามบริษัทก็นิยมใช้งาน Email บริษัทเพื่อบ่งบอกถึงความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือขององค์กรรวมทั้งระบบ Email Microsoft 365 ยังเหมาะสำหรับองค์กรที่ใช้งาน Email หรือใช้งานคอมพิมเตอร์ระบบปฏิบัติการ Windown หรือ IOS ก็ได้เพราะจะได้ฟังก์ชั่นการทำงานของ Office 365 ทั้งแบบ Online และแบบติดตั้งที่เครื่องเมื่อสั่งซื้อ Packagr Standard ซึ่งสร้างความสะดวกสบายต่อการใช้งานภายในองค์กรโดยไม่ต้องลง Office เพิ่มเติมอีก

บทความที่เกี่ยวข้อง

ระบบ Microsoft 365 เหมาะกับใครมากที่สุด

Microsoft 365 คืออะไร

HTTPS คืออะไรทำไมต้องใช้ ?

ถ้าโดเมนหมดอายุแต่จะย้ายผู้ดูแลโดเมนสามารถย้ายได้ไหม

ทำไมต้องอย่าปล่อยให้โดเมนหมดอายุสำคัญอย่างไร?