Windows ประเภท CSP คืออะไร ?

Windows มีรูปแบบการจำหน่าย Key อยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป บทความนี้มาทำความรู้จักกับ Windows ประเภท CSP กัน

Windows ประเภท CSP คืออะไร ?

Windows ประเภท CSP หรือ Cloud Solution Provider คือ Windows ที่จำหน่ายโดยตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft ซึ่งจะได้รับ Username และ Password สำหรับเข้าหน้า Microsoft 365 Admin Center เพื่อเข้าไปเอา Key Product และตัวติดตั้ง Windows

ข้อดีของ Windows ประเภท CSP

  • สามารถใช้ Key เดียวกันลงกี่เครื่องก็ได้ (ตามจำนวนโคต้าที่ซื้อ)
  • สามารถติดตั้งตอนไหนก็ได้
  • สามารถ Upgred เป็นเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ได้ (ขึ้นอยู่กับทาง Microsoft)

ข้อเสียของ Windows ประเภท CSP

  • ไม่สามารถย้ายเครื่องไปเครื่องอื่นได้
  • หากเครื่องเดิมเสีย และติดตั้ง Windows ใหม่ก็จะนับโคต้าของ Key ใหม่ด้วย

สามารถซื้อ Windows ประเภท CSP ได้อย่างไร ?

สามารถซื้อ Windows ลิขสิทธิ์แท้ราคาถูกได้จากตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft โดยสามารถสอบถามราคา Windowsได้จากตัวแทน

บทความที่เกี่ยวข้อง

Windows ประเภท ESD คืออะไร ?

Windows มีรูปแบบการจำหน่าย Key อยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป บทความนี้มาทำความรู้จักกับ Windows ประเภท ESD กัน

Windows ประเภท ESD คืออะไร ?

Windows ประเภท ESD หรือ Electronic Software Downloads คือ Windows ที่จำหน่ายโดยตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft ซึ่งสินค้าจะถูกส่งให้ทางอีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้ตอนทำการซื้อ

ข้อดีของ Windows ประเภท ESD

  • สามารถย้ายเครื่อง หรือ ติดตั้งซ้ำที่เครื่องเดิมได้
  • สามารถซื้อมาติดตั้งตอนไหนก็ได้

ข้อเสียของ Windows ประเภท ESD

  • ราคาสูง
  • ไม่สามารถ Upgrad เป็นเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ได้
  • ต้องเก็บอีเมลที่มี Key Product ไว้ตลอด เพื่อยืนยันว่าสินค้าตรงตามลิขสิทธิ์

สามารถซื้อ Windows ประเภท ESD ได้อย่างไร ?

สามารถซื้อ Windows ลิขสิทธิ์แท้ราคาถูกได้จากตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft โดยสามารถสอบถามราคา Windowsได้จากตัวแทน

บทความที่เกี่ยวข้อง

Windows องค์กรมีแบบใดบ้าง ?

Windows องค์กรมีให้เลือกใช้งานได้หลายประเภท ดังนี้

Windows องค์กรแบบ CPS

CPS หรือ Cloud Solution Provider คือ Windows องค์กรที่จำหน่ายด้วยตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft ซึ่งจะได้ Username และ Password มา Login ที่หน้า Microsoft 365 Admin เพื่อเข้าไปนำ Key และตัวติดตั้ง Windows

Windows องค์กรแบบ OEM

OEM หรือ Original Equipment Manufacturer คือ Windows องค์กรที่มีจำหน่ายกับตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft ซึ่งจะได้สินค้าเป็นกล่อง แต่แบบ OEM จะสามารถใช้งานได้เฉพาะเครื่องที่ยังไม่เคยลง Windows เท่านั้น

Windows องค์กรแบบ FPP

FPP หรือ Full Packaged Product คือ Windows องค์กรที่มีจำหน่ายตามร้านค้าขายสินค้าไอที หรือ ตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft ซึ่งสินค้าจะมาในรูปแบบกล่อง

Windows องค์กรแบบ ESD

ESD หรือ Electronic Software Downloads คือ Windows องค์กรที่มีจำหน่ายกับตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft ซึ่งจะได้สินค้าเป็น Key ทางอีเมล

สามารถซื้อ Windows องค์กรได้อย่างไร ?

สามารถซื้อ Windows ลิขสิทธิ์แท้ราคาถูกสำหรับองค์กรได้จากตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft โดยสามารถสอบถามราคา Windowsได้จากตัวแทน

บทความที่เกี่ยวข้อง

Windows ประเภท FPP คืออะไร ?

Windows มีรูปแบบการจำหน่าย Key อยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป บทความนี้มาทำความรู้จักกับ Windows ประเภท FPP กัน

Windows ประเภท FPP คืออะไร ?

Windows ประเภท FPP หรือ Full Packaged Product คือ Windows ที่มีจำหน่ายตามร้านค้าขายสินค้าไอที หรือ ตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft ซึ่งสินค้าจะมาในรูปแบบกล่อง USB หรือ สติ๊กเกอร์ เป็นต้น

ข้อดีของ Windows ประเภท FPP

  • หาซื้อได้ง่าย ร้านค้าขายสินค้าไอที หรือ Reseller ของ Microsoft
  • สามารถย้ายเครื่อง หรือ ติดตั้งซ้ำที่เครื่องเดิมได้
  • สามารถติดตั้งตอนไหนก็ได้

ข้อเสียของ Windows ประเภท FPP

  • ราคาสูง
  • ไม่สามารถ Upgrad เป็นเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ได้
  • ต้องเก็บกล่องที่มี Key Product ไว้ตลอด เพื่อยืนยันว่าสินค้าตรงตามลิขสิทธิ์

สามารถซื้อ Windows ประเภท FPP ได้อย่างไร ?

สามารถซื้อ Windows ลิขสิทธิ์แท้ราคาถูกได้จากตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft โดยสามารถสอบถามราคา Windowsได้จากตัวแทน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ควรเลือกใช้งานอีเมลบริษัทระบบใดดี ?

อีเมลบริษัทมีให้บริการหลากหลายระบบ เช่น Microsoft 365, Google Workspace, Zoho หรือ ระบบอีเมลของผู้ให้บริการหลายนั้น ๆ ซึ่งแต่ละระบบก็มีข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันออกไป การเลือกใช้งานนั้นควรเลือกระบบที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานมากสุด โดยพิจราณาปัจจัยต่อไปนี้

งบประมาณ

อีเมลบริษัทแต่ละระบบก็มีค่าใช้จ่ายแตกต่างกัน ก่อนเลือกใช้งานควรตรวจสอบว่าระบบใดที่เหมาะสมกับงบประมาณมากที่สุด เพราะค่าใช้จ่ายของอีเมลบริษัทนั้นเป็นค่าใช้จ่ายระยะยาว

ต้องการใช้งาน Function มากกว่าการรับส่งอีเมลหรือไม่ ?

อีเมลบริษัทแต่ละระบบก็จะมี Function การทำงานแตกต่างกันออกไป เช่น Microsoft 365 ก็จะมีโปรแกรม Office ให้ใช้งาน หรือ Google Workspace ก็จะมี Google Drive, Google Sheets และอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งการเลือกใช้งานก็ควรเลือกระบบที่ตอบโจทย์มากที่สุด เพราะหากเลือกระบบที่ไม่ได้ใช้งาน Function นั้น ๆ มาจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายที่สูง แต่ใช้งานได้ไม่เต็มที่

พื้นที่ของอีเมล

อีเมลบริษัทแต่ละระบบก็จะได้พื้นที่แตกต่างกันไป ซึ่งหากท่านต้องการใช้พื้นที่มาก อาจจะเลือกระบบที่มีราคาสูงที่ได้พื้นที่เยอะ เพราะอาจจะทำให้ประหยัดกว่าการเลือกระบบที่มีราคาถูก แต่ต้องซื้อพื้นเพิ่มเยอะ ๆ

ข้อมูลโดยสรุป

อีเมลบริษัทมีให้บริการหลากหลายระบบ เช่น Microsoft 365, Google Workspace, Zohoหรือ ระบบอีเมลของผู้ให้บริการหลายนั้น ๆ ซึ่งแต่ละระบบก็มีข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันออกไป การเลือกใช้งานนั้นควรเลือกระบบที่ตอบโจทย์ต่อการใช้งานมากสุด โดยวิเคราะจากปัจจัยด้านบน ซึ่งหากสนใจต้องการ Microsoft 365 ราคาถูก หรือ Google Workspace ราคาถูก สามารถติดต่อสอบถามกับผู้ให้บริการระบบอีเมลบริษัทได้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง

Space ขั้นต่ำที่รองรับการติดตั้ง Windows 11

Windows 11 เป็นระบบปฎิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดที่ทาง Microsoft ให้บริการ ซึ่งก่อนทำการติดตั้งก็ต้องตรวจสอบก่อนว่า PC หรือ Laptop ที่ใช้งานนั้นมี Space ที่รองรับ Windows 11 หรือไม่

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนทำการติดตั้ง Windows 11 !

กรณีใช้งาน Windows 10 และต้องการอัพเกรดเป็น Windows 11 ควรตรวจสอบว่า PC หรือ Laptop ที่ใช้งานนั้น ผ่านเกณฑ์ Space ขั้นต่ำก่อนทำการอัพเกรด และ Windows 10 ที่ใช้งานต้องเป็น Windows ลิขสิทธิ์แท้ และตรงกับตัวที่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 11 ได้ โดยสามารถใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า “PC Health Check” ตรวจสอบความเข้ากันได้ของคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน ว่าจะสามารถใช้งาน Windows 11 ได้หรือไม่

Space ขั้นต่ำที่รองรับการติดตั้ง Windows 11

หัวข้อ Space ขั้นต่ำ
โปรเซสเซอร์ 1 GHz หรือเร็วกว่า, 2 คอร์ขึ้นไป , โปรเซสเซอร์ 64-bit ที่เข้ากันได้หรือ (SoC)
RAM 4 GB
ที่เก็บข้อมูล 64 GB
เฟิร์มแวร์ระบบ UEFI ที่รองรับ Secure Boot
TPM Trusted Platform Module (TPM) เวอร์ชัน 2.0
การ์ดจอ DirectX 12 หรือใหม่กว่าพร้อมไดรเวอร์ WDDM 2.0
จอแสดงผล ความละเอียดHD (720p) , ขนาน 9 นิ้วขึ้นไป , การตั้งค่า bit ต่อช่องสี 8 bit

ตารางบอก Space ขั้นต่ำที่รองรับการติดตั้ง Windows 11

สามารถซื้อ Key Windows 11 ลิขสิทธิ์แท้ได้จากที่ไหน ?

สามารถซื้อ Key Windows ลิขสิทธิ์แท้ราคาถูกได้จากตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft

ข้อมูลโดยสรุป

ก่อนทำการติดตั้ง Windows 11 ต้องตรวจสอบก่อนว่า PC หรือ Laptop ที่ใช้งานนั้นมี Space ที่รองรับ Windows 11 หรือไม่ และ Windows 10 ที่ใช้งานต้องเป็น Windows ลิขสิทธิ์แท้ และตรงกับตัวที่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 11 ได้ โดยสามารถใช้โปรแกรมที่ชื่อว่า “PC Health Check” ตรวจสอบความเข้ากันได้ของคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

 

Windows คืออะไร ?

Windows คืออะไร ?

Windows คือ จุดเริ่มต้นแรกในการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ Laptop ซึ่ง Windows เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Microsoft เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาให้เพื่อให้สามารถใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกขึ้น

เลือกใช้ Windows แบบไหนดี ?

การเลือกใช้งาน Windows ควรเลือกให้ตรงตามสิทธิ์ของ Software และลิขสิทธิ์ที่ถูกต้อง โดย Windows มีสิทธิ์ของ Software แต่ละประเภทดังนี้

  • Home/Family คือ สำหรับใช้ภายในครัวเรือน และครอบครัว
  • Education คือ สำหรับใช้เพื่อการศึกษา หรือ ในสถานศึกษา
  • Non-Profit คือ สำหรับหน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไร
  • Commercial คือ สำหรับใช้เพื่อการพาณิชย์

ซื้อ Windows ลิขสิทธิ์แท้ได้อย่างไร ?

สามารถซื้อ Windows ลิขสิทธิ์แท้ราคาถูกได้จากตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft

Windows ลิขสิทธิ์แท้มีจำหน่าย Key แบบใดบ้าง ?

Windows ลิขสิทธิ์แท้ที่มีจำหน่ายมี Key อยู่ 4 ประเภท ดังนี้

  • FPP คือ แบบที่จำหน่ายเป็นกล่องที่มาพร้อมกับ CD, Flash drive และ CD Key ที่เห็นกันตามห้างสรรพสินค้า 1 กล่องต่อ 1 License
  • OEM คือ แบบที่แถมมากับตอนซื้อเครื่อง จะราคาถูกเพราะราคารวมกับราคาเครื่องที่เราซื้อมาไปแล้ว
  • CSP คือ แบบที่ Login เข้าไป เพื่อไปนำ Key จาก Web Microsoft โดยตรง
  • Volume Licensing คือ แบบที่ขายมากกว่า 5 License สำหรับองค์กร

จะรู้ได้อย่างไรว่า Windows ที่ใช้งานนั้นเป็นลิขสิทธิ์แท้ ?

Windows ลิขสิทธิ์แท้แต่ละประเภทจะมีวิธียืนยันว่าเป็นลิขสิทธิ์แท้ ดังนี้

  • FPP คือ กล่องที่ซื้อมา, Sticker หลังกล่อง, ใบเสร็จรับเงิน
  • OEM คือ Sticker ที่ติดมากับเครื่อง, ใบเสร็จรับเงิน
  • CSP คือ Product Key, ใบเสร็จรับเงิน
  • Volume Licensing คือ เอกสารตอนที่ซื้อมา

ดังนั้นหากอยากทราบว่า Windows ที่ใช้อยู่เป็นของแท้หรือไม่ สิ่งง่าย ๆ คือ สามารถยืนยันสิทธิ์ตามข้อมูลด้านบนได้หรือไม่ หากมีหน่วยงานภายนอกมาตรวจสอบ หรือการสั่งซื้อสินค้านั้นได้มีข้อมูลตามข้อมูลด้านบนครบถ้วนหรือไม่

ข้อมูลโดยสรุป

Windows คือระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดย Microsoft ซึ่งเครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะต้องมีการติดตั้ง Windows ก่อน จึงจะสามารถใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้ โดยสามารถซื้อ Windows ลิขสิทธิ์แท้ราคาถูกได้จากตัวแทนจำหน่ายของ Microsoft

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทำอีเมลบริษัทเลือกใช้งาน Google Workspace หรือ Microsoft 365 ดี ?

สำหรับท่านที่กำลังจะทำอีเมลบริษัทแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้งานเป็นระบบไหนดีระหว่าง Google Workspace หรือ Microsoft 365 บทความนี้มีแนะนำ

Google Workspace คืออะไร ?

Google Workspace คือระบบการทำงานของ Google ซึ่งใช้งานผ่านหน้า Gmail โดยมีฟังก์ชั่นการทำงานต่างกันออกไปตาม Package ที่ผู้ใช้งานเลือกซื้อให้ตรงกับการใช้งานในบริษัท เช่น Google DocGoogle SheetGoogle Slides เป็นต้น โดยราคาเริ่มต้นของ Google Workspace คือ 2,650 บาท / User / ปี (อ้างอิงจากเทคโนโลยีแลนด์)

Microsoft 365 คืออะไร ?

Microsoft 365 คือ ระบบอีเมลจากค่าย Microsoft โดยมาพร้อมกับ Software ที่ช่วยทำให้การทำงานในบริษัทนั้นง่ายขึ้น เช่น Microsoft Teams (สำหรับประชุม Online), OneDrive (Share File ในองค์กร), WordExcelPower Point เป็นต้น โดยราคาเริ่มต้นของ Microsoft 365 คือ 980 บาท / User / ปี (อ้างอิงจากเทคโนโลยีแลนด์) สำหรับ Plan No Team

เลือกใช้งาน Microsoft 365 หรือ Google Workspace ดี ?

การเลือกใช้งาน Microsoft 365 หรือ Google Workspace ควรเลือกที่ตอบโจทย์ที่บริษัทต้องการมากที่สุด เพราะจะได้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เช่น เรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องฟังชั่นเสริม หรือเรื่องพื้นที่อีเมล

สามารถใช้งาน Google Workspace หรือ Microsoft 365 ราคาถูกได้ไหม ?

จะเห็นได้ว่าราคาของ Google Workspace นั้นค่อนข้างสูง และราคาปัจจุบันของ Microsoft 365 นั้นที่ขายในประเทศไทยเป็นราคาโปรโมชั่นหรือลด 50% หากต้องการใช้งาน Google Workspace ราคาถูก หรือ Microsoft 365 ราคาถูก  ทางเราขอแนะนำให้ใช้งานแบบ Hybird โดยท่านสามารถติดต่อสอบถามกับทางเทคโนโลยีแลนด์ได้เลย เพราะการใช้งานแบบ Hybird สามารถทำให้บริษัทของท่าน ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 60-80 %

ข้อมูลโดยสรุป

การเลือกใช้งาน Microsoft 365 หรือ Google Workspace ควรเลือกที่ตอบโจทย์ที่บริษัทต้องการมากที่สุด เพราะจะได้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เช่น เรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องฟังชั่นเสริม หรือเรื่องพื้นที่อีเมล

บทความที่เกี่ยวข้อง

Google Workspace ราคาประหยัด !

Google Workspace คือหนึ่งในระบบอีเมลบริษัทที่ได้รับความนิยมมาก เพราะว่าการใช้งานนั้นเหมือนกับการใช้งาน Gmail และยังมีฟังชั่นอื่น ๆ มาให้ใช้งานอีกด้วย เช่น Docs , Meet และ Sheet เป็นต้น แต่การที่มีอย่างอื่นมาให้ใช้งานก็ย่อมมากับค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นเดียวกัน ทางเราจะมาบอกขั้นตอนทำอีเมลบริษัทระบบ Google Workspace ราคาถูกกัน

Google Workspace คืออะไร ?

Google Workspace คือระบบอีเมลบริษัทที่ให้บริการโดย Google เป็นระบบอีเมลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่ได้มีให้บริการเพียงระบบอีเมลเพียงอย่างเดียว แต่มาพร้อมกับฟังชั่นอื่น ๆ ด้วย เช่น Docs , Drive , Sheet และ Meet เป็นต้น ซึ่ง Google Workspace ยังมีหลากหลาย Packet ให้เลือกใช้บริการโดย Packet ที่ได้รับความนิยมมีดังนี้

  • Google Workspace Business Starter ราคา 2,650 บาท / User / ปี
  • Google Workspace Business Standard ราคา 5,600 บาท / User / ปี
  • Google Workspace Business Plus ราคา 9,500 บาท / User / ปี

*ราคาข้างต้นอ้างอิงมาจากเทคโนโลยีแลนด์ที่เป็น Partner กับ Google ซึ่งเป็นราคา ณ วันที่ 28/05/2024

จะทำ Google Workspace ราคาถูกได้อย่างไร ?

การจะทำ Google Workspace ราคาถูกได้ต้องเป็นการใช้งานแบบ Hybird โดยปกติแล้ว 1 Domain นั้นจะสามารถใช้งานระบบอีเมลได้เพียงระบบเดียวเท่านั้น แต่จากการตรวจสอบของทางเรานั้นพบว่า ทางเทคโนโลยีแลนด์นั้นสามารถทำ Hybird ได้ โดยการใช้งานระบบอีเมล Google Workspace กับ Gocloud ของทางเทคโนโลยีแลนด์ ซึ่งจะทำให้ท่านสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 60% – 80% ตัวอย่าง ถ้าท่านใช้งาน Google Workspace Business Starter จำนวน 100 User ค่าใช้จ่าย 2,650 x 100 = 265,000 บาท แต่ถ้าท่านทำ Hybird โดยการใช้งาน Google Workspace Business Starter จำนวน 30 User ค่าใช้จ่าย 2,650 x 10 = 79,500 บาท และใช้งาน Email Gocloud 3 GB จำนวน 70 User ค่าใช้จ่าย 300 x 70 = 21,000 บาท ค่าใช้จ่ายสุทธิ 79,500 + 21,000 = 100,500 บาท ทำให้ท่านประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 164,500 บาท กันเลยทีเดียว

ข้อมูลโดยสรุป

Google Workspace คือหนึ่งในระบบอีเมลบริษัทที่ได้รับความนิยมมาก เพราะว่าการใช้งานนั้นเหมือนกับการใช้งาน Gmail และยังมีฟังชั่นอื่น ๆ แต่การที่มีอย่างอื่นมาให้ใช้งานก็ย่อมมากับค่าใช้จ่ายที่สูงเช่นเดียวกัน ซึ่งการจะทำ Google Workspace ราคาถูกได้ต้องเป็นการใช้งานแบบ Hybird

บทความที่เกี่ยวข้อง

ขั้นตอนสร้างอีเมลบริษัทแบบง่าย !

ท่านที่เริ่มทำบริษัท แต่ยังใช้งานอีเมลในการติดต่องานเป็นฟรีอีเมลอยู่ เช่น @gmail หรือ @hotmail ซึ่งการใช้งานฟรีอีเมลนั้นอาจดูไม่ค่อยมีความน่าเชื่อถือสักเท่าไร จึงต้องการใช้งานอีเมลบริษัท แต่ไม่รู้ต้องเริ่มอย่างไร บทความนี้จะมาบอกถึงการสร้างอีเมลบริษัทโดยขั้นตอนสร้างอีเมลบริษัทง่าย ๆ ดังนี้

ขั้นตอนสร้างอีเมลบริษัท

1. ต้องตรวจสอบความต้องการของบริษัทตนเอง

บริษัทขนาดเล็กส่วนใหญ่ต้องการเพียงสร้างอีเมล @company.com เท่านั้น แต่บริษัทที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมักมีความต้องการที่มากขึ้น เช่น การ Share Drive ภายในบริษัท การใช้งานโปรแกรมอื่นในบริษัท หรือ จะเป็นการประชุมออนไลน์ในบริษัทเป็นต้น ซึ่งเราต้องเรียนรู้พฤติกรรมและพื้นฐานด้าน IT ของพนักงานตนเอง เนื่องจากหากท่านใช้งานระบบอีเมลที่มี Function มากมายแต่พนักงานไม่สามารถใช้งานได้ เราอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายไปโดยไม่จำเป็นและอาจจะเพิ่มความยากต่อการใช้งานของระบบมากขึ้นด้วย

2. ต้องกำหนดงบประมาณ

ผู้ใช้งานควรกำหนดงบประมาณที่สามารถจ่ายไหว เพราะการใช้งานอีเมลบริษัทนั้นเป็นค่าใช้จ่ายต่อเนื่องรายปี ต้องมั่นใจว่าบริษัทสามารถจ่ายค่าใช้จ่ายนี้ได้ทุกปี เพราะการปรับเปลี่ยนในภายหลังอาจจะสร้างความยุ่งยากต่อการใช้งาน

3. ต้องคิดชื่อโดเมนที่ต้องการใช้งาน

โดยส่วนใหญ่แล้วบริษัทที่พึ่งเริ่มใช้งานอีเมลบริษัทมักจะยังไม่ได้จดโดเมนโดยทางเราขอแนะนำเทคนิคการคิดชื่อโดเมนที่ต้องการนำไปใช้งานดังนี้

  • สั้นและจดจำง่าย
  • หากจำเป็นต้องใช้ชื่อยาว ๆ ควรเป็นคำที่มีความหมาย และผู้คนทั่วไปสามารถสะกดได้ง่าย เช่น thailand ก็ควรใช้คำว่า thailand ไปเลยหรือ thai เป็นต้น เพราะเป็นคำทั่วไปที่สะกดได้ง่าย
  • ไม่ควรมีเครื่อหมาย – (ขีดกลาง) ถึงแม้ว่าจะใช้ได้เพราะอาจจะทำให้ผู้ต้องการเข้าเว็บสะกดผิดเป็น _ (ขีดล่าง) และพิมพ์ชื่ออีเมลผิดได้

4. ต้องคิดชื่อ User ที่ต้องการใช้งาน

สำหรับการตั้งชื่ออีเมลนั้น สามารถตั้งตามความต้องการได้เลย แต่สำหรับท่านใดที่ยังคิดไม่ออก ทางเรามีตัวอย่างแนะนำดังนี้ บางบริษัทอาจจะตั้งชื่ออีเมลเป็นชื่อกลางแผนก เช่น sale@company.com, account@company.com หรือ อาจจะตั้งชื่อเป็นชื่อพนักงาน เช่น somchai.y@company.com ซึ่งท่านต้องส่งรายชื่อเหล่านั้นไปยังผู้ให้บริการเพื่อสร้างระบบรองรับไว้

5. ต้องเลือกระบบอีเมลบริษัทที่ต้องการใช้งาน

ปัจจุบันมีผู้ให้บริการอีเมลบริษัทจำนวนมากโดยท่านควรเลือกจากงบประมาณ และความน่าเชื่อถือของผู้ให้บริการ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ให้บริการอีเมลบริษัทที่เป็นที่นิยมดังนี้

6. การเลือกผู้ให้บริการอีเมล

สำหรับการเลือกผู้ให้บริการนั้น บริษัทควรเลือกผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ และมีประสบการณ์ เพราะการเลือกผู้ให้บริการนั้นจะส่งผลต่อบริการหลังการขาย หรือ เวลาที่ท่านพบปัญหา

เทคโนโลยีแลนด์
บริษัท เทคโนโลยีแลนด์ จำกัด ผู้ให้บริการอีเมลบริษัท

ปัญหาที่จะพบในการใช้งานอีเมลบริษัท

หลายคนคงคิดว่าหลังจากใช้งานอีเมลบริษัทแล้วก็จะสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น ตราบใดที่ได้ทำการชำระค่าบริการให้แก่ผู้ให้บริการ แต่ที่จริงแล้วอย่าลืมว่าอีเมลบริษัทนั้นถูกใช้งานโดยพนักงานที่มี Skill IT ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตั้งแต่พนักงานบางท่านอาจจะมีความสามารถทาง IT ไม่ค่อยมากนัก ไปจนถึงพนักงานที่สามารถใช้งาน IT ได้อย่างคล่องแคล่ว และไม่มีทางที่พนักงานทั้งหมดจะใช้งานได้อย่างราบรื่นตลอดเวลา ซึ่งไม่ว่าระบบจะมีประสิทธิภาพมากเพียงใดหากเกิดปัญหาการใช้งาน ไม่ว่าจะเกิดการตั้งค่าผิดพลาดของพนักงานเอง หรือ จากระบบ ท่านต้องสามารถติดต่อผู้ให้บริการ และต้องได้รับคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้

ข้อมูลโดยสรุป

อีเมลบริษัทเป็นระบบที่สำคัญยิ่งในการสื่อสารสำหรับบริษัท ในยุคปัจจุบัน ถึงแม้ว่าในการเริ่มใช้งานช่วงแรก ๆ อาจจะไม่ค่อยมีความสำคัญมากนักแต่เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งจะทราบว่าลูกค้า และผู้ติดต่อทั้งหมดจะทำการติดต่อมายังอีเมลบริษัท ดังนั้นควรเลือกผู้ให้บริการและระบบที่มีคุณภาพและบริการหลังการขายที่เชื่อถือได้ ซึ่งสามารถทำตามขั้นตอนสร้างอีเมลบริษัทง่าย ๆ ด้านบนได้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง