Zoho Workplace เป็นมากกว่าเครื่องมือทำงานทั่วไป เพราะมีฟีเจอร์เฉพาะทางที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระดับองค์กรแบบจริงจัง ในบทความนี้เราจะเจาะลึก 3 แอป Zoho Workspace ที่องค์กรควรใช้ พร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
Zoho Cliq – เครื่องมือสื่อสารในองค์กรแบบเรียลไทม์
ฟีเจอร์เด่น
-
Command Center : ใช้คำสั่งเพื่อดึงข้อมูลจากระบบอื่น เช่น CRM, Projects ฯลฯ ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้า
-
Bots & Workflows : สร้าง Bot แจ้งเตือนงาน ประชุม หรือยอดขาย
-
Integration : เชื่อมกับ GitHub, Trello, Google Drive ได้ง่าย
ข้อดี : ลดการใช้หลายแอป แชทแบบ Real-Time พร้อม Context
เหมาะสำหรับ : ทีม DevOps / ทีม Support
Zoho Projects – ระบบบริหารโครงการครบวงจร
ฟีเจอร์เด่น
-
Blueprint : สร้าง Workflow งานที่มีลำดับชัดเจน เช่น อนุมัติ-ดำเนินการ-ตรวจสอบ
-
Time Tracking : ติดตามเวลาในการทำงานแบบระบุ Task ได้
-
Gantt Chart : เหมาะสำหรับดูภาพรวม Timeline โครงการ
ข้อดี : เหมาะกับโครงการที่มีหลายฝ่าย และต้องมีการตรวจสอบหลายขั้นตอน
เหมาะสำหรับ : ทีม PMO / ทีม Developer / เอเจนซี่
Zoho Books – ระบบบัญชีอัตโนมัติสำหรับองค์กร
ฟีเจอร์เด่น
-
GST/VAT Support : รองรับระบบภาษีของหลายประเทศ รวมถึงไทย
-
Recurring Invoice : ออกบิลอัตโนมัติรายเดือน
-
API Integration : เชื่อมกับระบบ ERP หรือ eCommerce ได้
ข้อดี : ลดการทำบัญชีซ้ำซ้อน สะดวก ตรวจสอบง่าย
เหมาะสำหรับ : แผนกบัญชี / CFO / Startup ที่เติบโตเร็ว
อยากใช้ Zoho Workspace ต้องทำอย่างไรบ้าง?
เพื่อเริ่มต้นใช้งาน Zoho Workspace แนะนำให้ติดต่อเทคโนโลยีแลนด์ พันธมิตรอย่างเป็นทางการที่ผ่านการรับรองจาก Zoho และเป็นผู้ให้บริการ Zoho Workspace และ Zoho email hosting
ข้อมูลโดยสรุป
ทั้งสามแอปมีจุดแข็งที่ช่วยลดภาระงานมนุษย์ เพิ่มระบบอัตโนมัติ และเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกันได้อย่างชาญฉลาด Zoho Workspace เหมาะกับทั้งองค์กรขนาดกลาง และใหญ่ที่ต้องการความคล่องตัว